ในอดีตเมื่อพูดถึงการฝึกภาษา อาจจะเป็นเรื่องที่ต้องใช้เงินมาก ในการส่งลูกรัก เข้าไปร่ำเรียนภาษาในสถาบันกวดวิชา ซึ่งเด็กหลาย ๆ คนอาจจะไม่ชอบ รู้สึกไม่สนุกหรือมีความเครียดมากจนเกินไป แต่การฝึกภาษาในปัจจุบันนี้มีแนวทางดี ๆ มากมาย ที่ทำให้เด็กรู้สึกสนุก สนใจอยากจะศึกษา นั่นก็คือการรับชมช่อง YouTube จากต่างประเทศนั่นเอง  

เลือกช่องที่มีคุณภาพ

แต่อย่างไรก็ตามสิ่งหนึ่งที่คุณพ่อคุณแม่จะต้องใส่ใจก็คือ การคัดกรองช่อง YouTube ดี ๆ ให้กับลูกน้อย มีช่อง YouTube มากมายหลายร้อย หลายพันช่อง ซึ่งบางช่องมีเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมสำหรับเด็ก เช่น มีการใช้ภาษาที่ไม่เหมาะสมหรือแม้แต่การนำเสนอเรื่องเพศและความรุนแรง ดังนั้นหน้าที่ของพ่อแม่คือการตรวจสอบช่อง YouTube ที่ลูกน้อยดูว่าให้ประโยชน์หรือสาระอะไรบ้าง โดยเรามีช่อง YouTube ที่เด็ก ๆ จำนวนมากชื่นชอบ และสามารถฝึกภาษาไปพร้อม ๆ กันได้ด้วย ดังนี้…

1. PewDiePie

ครีเอเตอร์ YouTube ชาวสวีเดน มักสร้างสรรค์วิดีโอ และการแสดงในรูปแบบตลก เขาเป็นหนึ่งในบุคคลที่มีชื่อเสียงในโลกออนไลน์ ในปี 2016 นิตยสาร Time ยกให้เขาเป็นหนึ่งใน 100 คนที่มีอิทธิพลมากที่สุดในโลก สไตล์ในการนำเสนอเนื้อหาของเขามีความหลากหลาย เช่น การทำ vlog, คอนเทนต์ตลกขบขัน, เล่าเรื่องสั้น และการทำมิวสิควิดีโอ

2. Minutephysics 

เป็นช่อง YouTube ด้านการศึกษา ครีเอเตอร์คือ Henry Reich ก่อตั้งในปี 2011 วิดีโอของเขานำเสนอแอนิเมชั่นไวท์บอร์ด ใช้ในการเล่าเรื่องที่เกี่ยวข้องกับฟิสิกส์ ในเวลาประมาณคลิปล่ะ 1 นาที ดังนั้นจึงเหมาะกับเด็ก ๆ อย่างแน่นอน 

3. FunToyzcollector

ช่องรีวิวของเล่นแบบจัดเต็ม แน่นอนว่าของเล่นกับเด็กนั้นเป็นสิ่งที่มาควบคู่กันเสมอ ช่องนี้นำเสนอรีวิวของเล่นเด็กที่น่าสนใจมากมาย ดังนั้นจะดึงดูดความสนใจของลูกน้อยของคุณได้อย่างแน่นอน อีกทั้งยังได้เป็นการฝึกฟัง และฝึกภาษาไปพร้อม ๆ กันด้วยเรียกได้ว่าทั้งสนุกและมีสาระ

มีผู้ปกครองจำนวนมาก ที่ซีเรียสเรื่องการใช้อินเทอร์เน็ต หรือการติดโทรศัพท์มือถือแท็บเลตของลูกน้อย แต่อุปกรณ์ที่ทันสมัยเหล่านี้ ถ้ามีการใช้ให้ถูกที่ถูกทาง มีการกำหนดเวลาในการใช้งานที่เที่ยงตรง นอกจากจะช่วยทำให้ลูกของคุณรู้สึกผ่อนคลายแล้ว ในขณะเดียวกันก็ยังเป็นการสร้างเสริมความรู้ ให้กับลูกในรูปแบบนอกห้องเรียนได้อีกด้วย ความรู้ในปัจจุบันนี้มีอยู่ทุกที่ และการเรียนรู้ที่ดีจะต้องมาพร้อมกับความสนุก ความรู้สึกกระตุ้นอยากจะศึกษาเรียนรู้ ดีกว่านั่งท่องตำราเป็นวัน ๆ ซึ่งการสอนแบบนั้นเด็กไม่ชอบอย่างแน่นอน แถมยังต่อต้านอีกด้วย แต่ถ้าคุณใช้กลยุทธ์ที่เรานำมาแนะนำเหล่านี้ นอกจากจะทำให้ลูกของคุณสนใจการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศมากขึ้น ก็ยังทำให้มีกิจกรรมดี ๆ ทำในแต่ละวัน